29 มิถุนายน 2558

เหตุเกิดเพราะธนาคารหยุด 1 อาทิตย์

เมื่อตอน 10 โมงของวันนี้นักลงทุนหลายๆ ท่านคงจะร้อง "กรีซ" กันทั่วหน้า เพราะใครจะไปคิดว่าเปิดตลาดหุ้นมาปุ๊ป ดัชนีก็ลบ 1% ในทันที (เปิด Gab ลงอย่างสวยงาม) พร้อมด้วยวอลุ่มมหาศาล


ซึ่งสาเหตุก็คือ ในเวลาประมาณตีสามของบ้านเรา ประเทศกรีซได้มีคำสั่งว่าให้ธนาคารในประเทศทั้งหมดหยุดทำการ 1 อาทิตย์ และให้ประชาชนถอนเงินออกมาใช้ได้ไม่เกินวันละ 60 ยูโรเท่านั้น รวมถึงห้ามโอนเงินออกนอกประเทศด้วย มันก็เลยเกิดเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงอย่างที่เห็น

27 มิถุนายน 2558

เมื่อคนออมเงินรวยกว่าคนเล่นหุ้น

ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนนิยามกฎ 80:20 แล้วนำมาใช้กับอะไรที่มัน Sensitive อย่างตลาดหุ้น เพราะนั่นแปลว่าในคน 100 คนที่เข้ามาเทรด จะมีเพียง 20 คนเท่านั้นที่กำไร ส่วนอีก 80 คนต้องขาดทุนอย่างเลี่ยงไม่ได้



เผลอๆ ตอนนี้ยิ่งแล้วใหญ่ คนเล่นหุ้น 100 คน จะมี 80 คนที่เจ๊ง 15 คนที่กำไรนิดหน่อย แต่มีเพียง 5 คนเท่านั้นที่สามารถลงทุนจนร่ำรวย ความจริงมันก็โหดร้ายอย่างนี้แหละ

ในเมื่อเราก็รู้แล้วว่าคนส่วนใหญ่ต้องเป็นหมูถูกเชือด ถ้าอย่างนั้นเราจะลงทุนไปทำไมกัน ฝากเงินเหมือนเดิมไม่ดีกว่าเหรอ ?

ใช่ครับ ไม่มีใครบอกว่าออมเงินแล้วจะจน เผลอๆ จะรวยกว่าคนที่ลงทุนเพียงอย่างเดียวด้วยซ้ำ !

24 มิถุนายน 2558

ซื้อหุ้นตามข่าวได้ผลแค่ไหน

มักจะมีคนถามผมบ่อยๆ ว่า ในการหาหุ้นเพื่อจะลงทุนสักตัว เราจำเป็นต้องติดตามข่าวมากแค่ไหน เพราะสิ่งที่ต้องยอมรับอย่างนึงก็คือ โลกในยุคปัจจุบันนั้นข่าวสารมีความรวดเร็วเท่าแสง แถมมีจำนวนมากซะด้วย ดังนั้นผมจึงตอบตรงนี้เลยว่า ข่าวมีความสำคัญอย่างแน่นอน


แต่ผมไม่ได้บอกว่ามันสำคัญในแง่ของการเลือกหุ้นนะ อย่าเข้าใจผิด

23 มิถุนายน 2558

โรคประหลาดของนักลงทุน

ผมมีอะไรสนุกๆ มาให้ลองคิดกันครับ สมมติว่าเมื่อวันก่อน เราๆ ท่านๆ ทั้งหลายได้เข้าซื้อหุ้น XXX ที่ราคา 10 บาท ด้วยความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าราคามันจะต้องไปต่อ แต่ปรากฎว่าสิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเพราะวันนี้ราคากลับไหลลงไปอยู่ที่ 8 บาท.. คำถามที่ผมจะถามคือ เรารู้สึกยังไงบ้าง ?


"ขาดทุนไปตั้ง 20% แหน่ะ ไม่เอาให้ Floor ไปเลย (วะ)" นี่อาจเป็นสิ่งที่หลายๆ คนกำลังคิด หรือถ้าคนที่เข้าซื้อหุ้นตัวนี้ด้วยเงิน 1,000,000 บาท ก็อาจจะคิดประมาณว่า "รู้งี้ไม่น่าซื้อเลย เงิน 2 แสนซื้ออะไรกินได้ตั้งเยอะแยะ"

แต่ถ้าผมเปลี่ยนแปลงอะไรนิดหน่อย แทนที่วันนี้ราคาหุ้นจะเหลือ 8 บาท แต่มันกลับขึ้นไปเป็น 13 บาท ! ผลตอบแทน 30% ในวันเดียวช่างเป็นอะไรที่เย้ายวนใจมาก (Ceiling นั่นเอง) ผมถามเหมือนเดิมครับ รู้สึกยังไงบ้างล่ะ ?

"ทำไมเราเก่งจัง ซื้อปุ๊ปลิ่งปั๊ป", "อาจเป็นเพราะโชคช่วยแหละน่า", "ดีใจจัง เรามีฝีมือพอตัวเลยนะเนี่ย" และอีกสารพัดความคิด แต่เราสังเกตเห็นอะไรรึเปล่า ? ผมเองเชื่อว่าแทบทุกคนจะไม่คิดว่าผลกำไรที่ทำได้จากหุ้นมันจะมีผลในชีวิตประจำวันสักเท่าไหร่เลย

เนี่ยแหละคือโรคประหลาดที่ผมพูดถึง

20 มิถุนายน 2558

ความผิดพลาด 1 วินาที

"นิดเดียวเอง ไม่เป็นไรหรอกน่า" เราคงจะเคยได้ยินคำพูดนี้บ่อยๆ ซึ่งมันตีความได้สองมุมมองนะ แบบแรกเราจะมองว่าคนพูดจิตใจดีมากหากเค้าเพิ่งโดนใครสักคนเหยียบเท้า แต่กับคนที่ละเลยหรือทำผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ล่ะ เราจะมองเค้าว่ายังไง


หลายคนอาจตอบว่านั่นก็ขึ้นอยู่กับความผิดพลาดว่ามันใหญ่ขนาดไหน หากมันเป็นเรื่องขี้มดเราก็น่าจะปล่อยผ่านได้นี่นา.. แต่บ่อยครั้งที่เราละเลยเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ มันมักจะเป็นสาเหตุของหายนะครั้งใหญ่เสมอ

แน่นอน รวมไปถึงการลงทุนด้วย 

19 มิถุนายน 2558

ลูกจ้างสร้างพันล้าน

ทำไมบริษัทแต่ละแห่งจำเป็นต้องมีลูกจ้าง ? แทบไม่ต้องคิดคำตอบกันเลยใช่มั้ยครับ "ก็ไว้ทำงานเพื่อให้บริษัทขับเคลื่อนไปข้างหน้าน่ะสิ" ดังนั้นถ้าบริษัทใดก็ตามมีพนักงานที่ทำงานได้ไม่ดีหรือร่วมงานกันไม่ได้ มันก็ยากที่บริษัทนั้นจะอยู่รอด.. หรือถ้าจะเอาตรงๆ ก็คือ เตรียมลงหลุมได้เลย

แต่แปลกอย่างนึง ทำไมจึงมีไม่กี่องค์กรเท่านั้นที่ให้ความสำคัญกับพนักงานอย่างจริงจัง ทั้งๆ คนกลุ่มนี้แหละคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้กิจการไปต่อได้

16 มิถุนายน 2558

มูลค่าที่ไม่แท้จริง

ชื่อบทความนี้ผมไม่ได้เขียนผิดหรอกครับ เพราะผมเองแค่เกิดความสงสัยเฉยๆ ว่าหนังสือหรือบทความหลายอย่างต่างก็เขียนเกี่ยวกับวิธีการหามูลค่าที่แท้จริงไปเยอะแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทั้งวิธี DCF เอย เอากำไรในอดีตมาวัดอนาคตเอย 



แต่.. เราจะรู้ได้ยังไงว่าวิธีที่ใช้ในการคำนวณนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง 

13 มิถุนายน 2558

ขาดทุน 5 หมื่นกับขาดทุน 5 ล้าน

ถ้าให้เลือกได้เราอยากเจอแบบไหน ? เป็นผมๆ ไม่เลือกสักข้ออ่ะ 555+ ล้อเล่นครับ สมมติมีชายสองคนเล่นหุ้นเหมือนกัน ขาดทุนเหมือนกัน คนแรกขาดทุนแค่ 5 หมื่น แต่คนที่สองขาดทุน 5 ล้าน ถ้าจำเป็นต้องเลือก เราจะเลือกคนไหน

ขาดทุนตั้ง 5 ล้านใครจะไปเลือก เงินห้าล้านนี่พอๆ กับเสียคอนโดพร้อมรถเลย ในขณะที่ขาดทุนห้าหมื่นมันก็ประมาณ iMac เครื่องนึงเท่านั้น ทำใจง่ายกว่าเยอะ



เอางี้ดีกว่า ถ้าผมบอกใหม่ว่าชายที่ขาดทุนห้าหมื่นนั้นมีพอร์ตหุ้นแค่ 1 แสน แต่คนที่ขาดทุนห้าล้านมีพอร์ตประมาณ 100 ล้านล่ะ ? แน่นอนเราต้องเลือกชายคนที่สองอยู่แล้ว เสียห้าล้านก็ยังเหลืออีกตั้งหลายล้าน 

แต่นั่นแหละ เมื่อถึงเวลานั้นเราจะ "เจ๋งจริง" จนสามารถทำใจกับคอนโดและรถที่เสียไปได้รึเปล่า

10 มิถุนายน 2558

หัดขี้เกียจซะบ้าง

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสมัยนี้ใครๆ ก็ขยันกันอย่างเอาเป็นเอาตายมากขึ้น แม้กระทั่งเด็กอนุบาลบางที่ยังมีติวสอนพิเศษเข้าโรงเรียนประถมด้วยซ้ำ ไล่ไปถึงผู้ใหญ่ที่ต้องขยันเพื่อก้าวไปสู่ตำแหน่งงานที่สูงกว่าหรือดีกว่า แม้มันจะลำบากแค่ไหน แต่ผลตอบแทนที่ได้มันก็ทำให้เราลืมเหนื่อย ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง ความยิ่งใหญ่ และแน่นอนรวมถึงเงินทองที่มากขึ้นอีกด้วย



จึงไม่แปลกที่ใครๆ ก็ขยันกันแทบทุกลมหายใจเพื่อให้ตัวเองประสบความสำเร็จ แล้วคนขี้เกียจล่ะ ? ก็ถูกมองว่าเป็นพวกคนไม่เอาถ่านน่ะสิ !

แต่การขยันและมุมานะเหมือนคนอื่น มันเป็นสิ่งที่ดีพอและจะได้ผลตอบแทนคุ้มค่าเหนื่อยเสมอเลยงั้นเหรอ ?

4 มิถุนายน 2558

ศัพท์หุ้นพื้นฐานที่มือใหม่ควรรู้

เนื่องด้วยคุณแฟนของผมยิงสายตรงเข้ามาบอกว่า "ต้น เค้าอยากรู้เรื่องหุ้น เขียนศัพท์ที่เค้าควรจะรู้มาให้หน่อยจะได้มั้ยคะ" แหม่ จะให้ขัดได้ยังไงล่ะ ผมเลยเขียนจัดให้ 45 คำซะเลย และไหนๆ ก็ไหนๆ ผมว่ามันคงจะมีประโยชน์สำหรับคนอื่นๆ เหมือนกัน ซึ่งศัพท์ทั้งหมดที่ผมเขียนก็มีดังนี้

ศัพท์หุ้นพื้นฐานที่ควรรู้

1) VI

ย่อมาจาก Value Investor หมายถึงนักลงทุนแบบเน้นคุณค่า 

2) Technical Analysis

การวิเคราะห์ด้วยปัจจัยทางเทคนิค ถ้าความหมายง่ายที่สุดก็คือการดูกราฟ หรือดูรูปแแบบของกราฟ

3) PE

อัตราส่วนระหว่างราคาหุ้นเทียบกับกำไรต่อหุ้น ค่าที่ได้จะออกมาเป็นเท่า ไว้วัดความถูกและแพงของหุ้นแบบหยาบๆ

3 มิถุนายน 2558

หุ้น 1 บาทกับหุ้น 10 บาท ตัวไหนแพงกว่ากันเหรอคะ

เราคุยเรื่องซับซ้อนกันมาหลายบทความแล้ว เอาเรื่องง่ายๆ อย่างบทความนี้บ้างดีกว่า เราคิดว่าหุ้นราคา 1 บาทกับหุ้นราคา 10 บาท ตัวไหนแพงกว่ากันครับ ? แน่นอนว่าถ้ามองแบบคร่าวๆ แล้ว หุ้นราคา 10 บาทย่อมแพงกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย แต่.. ถ้ามองแบบเหนือชั้นขึ้นมาอีกนิดนึง ด้วยการมองที่กำไรต่อหุ้นเทียบกับราคาล่ะ ?




เช่นสมมติ หุ้นตัวแรกราคา 1 บาท แต่กำไรต่อหุ้นหรือ EPS อยู่ที่ 0.05 บาท ค่า PE จะเท่ากับ 20 เท่า ส่วนหุ้นอีกตัวราคา 10 บาท แต่ PE อยู่ที่เพียง 10 เท่า.. อ่าฮะ งั้นก็แปลว่าหุ้นราคาสิบบาท ถูกกว่าหุ้นราคาหนึ่งบาทน่ะสิ !

อืม.. จะว่าถูกก็ถูก แต่จะว่าผิดก็ผิดนะ หากเทียบในแง่ของมูลค่าที่ได้รับ หุ้นราคาสิบบาทย่อมถูกกว่า แต่ถ้าเทียบในแง่ของราคาหุ้นที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตข้างหน้าแล้วละก็

ผมก็ยังเชื่อเหมือนเดิมครับ ว่าหุ้นราคา 1 บาทมันถูกกว่าหุ้นราคา 10 บาท แถมมันน่าสนใจกว่าแบบ "มากๆ" ซะด้วย