เราคุยเรื่องซับซ้อนกันมาหลายบทความแล้ว เอาเรื่องง่ายๆ อย่างบทความนี้บ้างดีกว่า เราคิดว่าหุ้นราคา 1 บาทกับหุ้นราคา 10 บาท ตัวไหนแพงกว่ากันครับ ? แน่นอนว่าถ้ามองแบบคร่าวๆ แล้ว หุ้นราคา 10 บาทย่อมแพงกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย แต่.. ถ้ามองแบบเหนือชั้นขึ้นมาอีกนิดนึง ด้วยการมองที่กำไรต่อหุ้นเทียบกับราคาล่ะ ?
เช่นสมมติ หุ้นตัวแรกราคา 1 บาท แต่กำไรต่อหุ้นหรือ EPS อยู่ที่ 0.05 บาท ค่า PE จะเท่ากับ 20 เท่า ส่วนหุ้นอีกตัวราคา 10 บาท แต่ PE อยู่ที่เพียง 10 เท่า.. อ่าฮะ งั้นก็แปลว่าหุ้นราคาสิบบาท ถูกกว่าหุ้นราคาหนึ่งบาทน่ะสิ !
อืม.. จะว่าถูกก็ถูก แต่จะว่าผิดก็ผิดนะ หากเทียบในแง่ของมูลค่าที่ได้รับ หุ้นราคาสิบบาทย่อมถูกกว่า แต่ถ้าเทียบในแง่ของราคาหุ้นที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตข้างหน้าแล้วละก็
ผมก็ยังเชื่อเหมือนเดิมครับ ว่าหุ้นราคา 1 บาทมันถูกกว่าหุ้นราคา 10 บาท แถมมันน่าสนใจกว่าแบบ "มากๆ" ซะด้วย
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันสักนิด คำว่า "ราคาหุ้นที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต" นั้นหมายถึงอนาคตประมาณ 6 เดือน - 2 ปีนะครับ เพราะถ้าระยะเวลาที่ยาวนานกว่านั้นราคาหุ้นกี่บาทก็สามารถขึ้นได้เหมือนกัน แต่ด้วยระยะเวลาเพียงไม่เกิน 2 ปี หุ้นที่จะขึ้นได้ 5 เท่าหรือ 10 เท่ามันมีเพียงแค่หยิบมือ ซึ่งคุณสมบัติที่สำคัญเลยข้อหนึ่งก็คือ ราคาต้องถูก
แล้วเพราะอะไรราคาถึงต้องถูกล่ะ ? มันเกี่ยวอะไรกับชื่อบทความที่ผมตั้งมั้ย ? เกี่ยวสิครับ เพราะราคาหุ้นที่ถูกกว่า นั้นย่อมมีโอกาสขึ้นไปได้ไกลกว่าด้วย
เพื่อให้เห็นภาพ ระหว่างหุ้นราคา 1 บาทกับ 10 บาท เราคิดว่าตัวไหนที่ราคาหุ้นสามารถที่จะวิ่งไปได้ง่ายกว่ากันล่ะ ? ถามว่าหุ้นราคาสิบบาทจะวิ่งไปไกลๆ สัก 50 บาทได้หรือไม่ ก็ได้นะครับ เพียงแต่มันอาจใช้เวลานานสักหน่อย (ดีไม่ดีอาจเกิน 5 ปี) เพราะราคาของมันที่อยู่ตั้ง 10 บาท ในขณะที่หุ้นราคา 1 บาท จะถูกปั่นอย่างเมามันจนไป 10 หรือ 20 บาทก็ทำได้ง่ายๆ (อย่างเช่นที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับหุ้นในตำนานทั้งหลาย)
สาเหตุเหรอครับ.. จะว่าไปผมว่ามันอาจตลกนิดนึงเพราะผม "เชื่อว่า" มันเกิดจากจิตวิทยาทางด้านราคาเป็นหลัก สมมติหุ้นตัวหนึ่งมีราคา 2 บาทแล้วมีข่าวออกมาว่า "บริษัทนี้กำไรโตระเบิด ราคาเป้าหมาย 10 บาท" มันดูน่าฟังกว่าหุ้นอีกตัวหนึ่งที่ราคา 20 บาท แต่ราคาเป้าหมาย 100 บาทเยอะเลยนะ
อีกเหตุผลที่สำคัญก็คือ ข้อมูลจากการที่ผมทดสอบระบบย้อนหลัง หุ้นเกือบทั้งหมดที่วิ่งไปได้เกิน 2-3 เท่า ในตอนแรกนั้นราคาอยู่ต่ำกว่า 10 บาททั้งนั้นเลย มีเพียงหุ้น MALEE ตัวเดียวเท่านั้นที่วิ่งจากประมาณ 11 บาทไปจนถึง 70 บาทได้ ในเวลาเพียงแค่ปีเศษๆ เท่านั้น
แต่อย่าลืมนะครับ สิ่งที่ผมบอกทั้งหมดในบทความนี้มันใช้ได้เฉพาะการเล่นรอบ เพราะหากใช้วิธีการอื่นๆ เช่นแบบ VI ที่อยากอยู่กับหุ้นนานๆ ราคาหุ้นอาจไม่มีผลสักเท่าไหร่ เพราะในระยะยาวแล้วราคาหุ้นย่อมสะท้อนมูลค่าของกิจการที่แท้จริงจนได้
หรือสำหรับคนที่เทรดสั้นๆ ราคาหุ้นอาจมีผลในแง่จิตวิทยาเล็กน้อย ตรงที่หุ้นราคาต่ำจะมีคนเล่นมากกว่าและปั่นกันมากกว่าหุ้นราคาแพง แต่หากเป้าหมายในการทำกำไรของเราเน้นกำไรเรื่อยๆ ไม่ต้องมากแต่บ่อยๆ หุ้นราคาเท่าไหร่ก็เล่นได้เหมือนกัน (อ้อ ! สภาพคล่องต้องมีถึงเล่นนะครับ อย่าไปเล่นหุ้นที่ไม่มีสภาพคล่องเชียว)
เพราะคำว่าถูกกับแพงของแต่ละคนมันต่างกัน.. ความรักก็เช่นกัน :P
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น