ถ้าให้เลือกได้เราอยากเจอแบบไหน ? เป็นผมๆ ไม่เลือกสักข้ออ่ะ 555+ ล้อเล่นครับ สมมติมีชายสองคนเล่นหุ้นเหมือนกัน ขาดทุนเหมือนกัน คนแรกขาดทุนแค่ 5 หมื่น แต่คนที่สองขาดทุน 5 ล้าน ถ้าจำเป็นต้องเลือก เราจะเลือกคนไหน
ขาดทุนตั้ง 5 ล้านใครจะไปเลือก เงินห้าล้านนี่พอๆ กับเสียคอนโดพร้อมรถเลย ในขณะที่ขาดทุนห้าหมื่นมันก็ประมาณ iMac เครื่องนึงเท่านั้น ทำใจง่ายกว่าเยอะ
เอางี้ดีกว่า ถ้าผมบอกใหม่ว่าชายที่ขาดทุนห้าหมื่นนั้นมีพอร์ตหุ้นแค่ 1 แสน แต่คนที่ขาดทุนห้าล้านมีพอร์ตประมาณ 100 ล้านล่ะ ? แน่นอนเราต้องเลือกชายคนที่สองอยู่แล้ว เสียห้าล้านก็ยังเหลืออีกตั้งหลายล้าน
แต่นั่นแหละ เมื่อถึงเวลานั้นเราจะ "เจ๋งจริง" จนสามารถทำใจกับคอนโดและรถที่เสียไปได้รึเปล่า
ทำไมเรื่องนี้จึงสำคัญ ? มันสำคัญกับคนที่มีทั้งเงินน้อยและเงินมากครับ เพราะคนที่มีเงินในพอร์ตหุ้นไม่มาก เช่นสักประมาณหนึ่งแสนบาท พอหุ้นตกขาดทุน 5,000 เค้าอาจจะดื้อไม่ขาย (ทั้งๆ ที่ถึงจุดคัทลอสแล้ว) และหลอกตัวเองว่า "ขาดทุนแค่ 5 พัน เงินเดือนชั้นตั้งสองหมื่นจะกลัวทำไม" สุดท้ายก็ปล่อยให้มัน Let Loss Run ไปเรื่อยๆ
หรืออย่างคนที่มีพอร์ตร้อยล้าน เกิดวันนึงหุ้นตกเล็กน้อยจนเงินหายไปประมาณ 5 ล้าน แม้มันจะเป็นเพียงแค่ 5% ของพอร์ตการลงทุนโดยรวม แต่หากปราศจากใจที่นิ่งและกล้าพอที่จะรักษาวินัย ก็คงไม่สามารถทนเห็นหุ้นตัวเองติดลบเป็นจำนวนเงินหลายล้านบาทได้ แถมบางคนยังอุตส่าห์เปรียบเทียบทำนองว่า "ชั้นเสียคอนโดไปห้องนึงเลยนะ" นั่น เอาเข้าไป
ไม่ว่าจะพอร์ตเล็กหรือใหญ่มันก็ต้อง "กล้า" ที่จะขายหากตัวเองผิดทาง และ "กล้า" ที่จะถือหุ้นต่อแม้ราคากำลังลง (เฉพาะกรณีลงแล้วมันจะขึ้นต่อนะ) ขาดทุน 5 หมื่นหรือ 5 ล้านมันไม่สำคัญหรอกครับ สิ่งที่สำคัญกว่าคือมันขาดทุนเป็นกี่ % ของเงินทั้งหมด ถ้าเรามองตัวเลขกำไรและขาดทุนเป็น % ชีวิตเราจะง่ายขึ้นเยอะ
ขาดทุน 50,000 แต่พอร์ตแสนนึงบางทีก็ไม่ไหวนะ :P
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น