แต่แปลกอย่างนึง ทำไมจึงมีไม่กี่องค์กรเท่านั้นที่ให้ความสำคัญกับพนักงานอย่างจริงจัง ทั้งๆ คนกลุ่มนี้แหละคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้กิจการไปต่อได้
เมื่อวานนี้ผมเองได้ไปช่วยงานสัมมนานอกสถานที่ของครูโอ๋ (ผู้เขียนหนังสือพูดดีชีวิตพุ่ง) ซึ่งจัดขึ้นที่อาคารจามจุรีสแควร์.. ตึกดีแทคนั่นเอง ! โดยผู้ที่เข้าฟังนั้นมีทั้งพนักงานและผู้จัดการของหลายๆ สาขาจากทั่วประเทศ
สิ่งที่ผมประทับใจ "โคตรๆ" นอกจากบรรยากาศของตึกที่สวยมาก นั่นก็คือการให้ความสำคัญต่อพนักงานของที่นี่ครับ เพราะพนักงานที่มาฟังนั้นก็ไม่ได้ตำแหน่งใหญ่โตมาก แถมดีแทคเองยังออกค่าใช้จ่ายให้พนักงานทั้งหมดด้วย
ผมไม่ได้อวยดีแทคนะ แต่การที่เค้าใส่ใจที่จะพัฒนาคนมากขนาดนี้ ที่เค้าได้แน่ๆ ก็คือพนักงานจะบริการดีขึ้น (เพราะได้รับการเทรนด์จากครูโอ๋อย่างเมามัน) และเมื่อพนักงานดูแลแบบเอาใจเขามาใส่ใจเรา ลูกค้าจะหายไปไหนได้ ดีไม่ดีอาจบอกต่อให้คนอื่นย้ายค่ายตามอีกต่างหาก ซึ่งนั่นก็หมายถึงผลกำไรของบริษัทที่จะเพิ่มขึ้น
ถึงเราจะเห็นบ่อยๆ ว่าเครือข่ายมือถือนั้นมักจะมีสงครามกับผู้บริโภคประจำ (อย่างที่เราเห็นได้จากในพันทิป) และดีแทคเองก็หนีไม่พ้น แต่อย่างน้อยๆ เค้าก็ส่งเสริมให้พนักงานกล้าที่จะรับมือกับปัญหาของลูกค้าด้วยความเต็มใจ มากกว่าจะให้ชักสีหน้าใส่ลูกค้าเหมือนที่กิจการอื่นชอบทำ แน่นอนล่ะครับว่าสาขาที่พนักงานดีแทคบริการไม่ดีก็ยังมีอยู่ แต่ของอย่างนี้มันต้องใช้เวลา
อีกอย่างนึงครับ บริษัทแบบนี้แหละที่ผมอยากลงทุนด้วย เพราะการที่เค้าใส่ใจกับลูกจ้างตำแหน่งเล็กๆ นั่นก็หมายถึงผู้ถือหุ้นอย่างเราก็จะได้รับความใส่ใจเหมือนกัน และเหมือนที่ผมบอกไปก่อนหน้า ยิ่งเค้าพัฒนาคนมากเท่าไหร่ (โดยเฉพาะคนที่เจอกับลูดค้าโดยตรง) ผลกำไรที่บริษัทได้รับมันจะสูงกว่าเงินที่จ่ายไปมากมายนัก
บริษัทที่ดีเค้าจะไม่มองว่าพนักงานเป็นแค่ลูกจ้าง แต่เค้าจะมองว่าพนักงานคือ Asset ที่สำคัญเกินกว่าจะประเมินค่าได้เลย
ปล. ผมไม่ได้ถือหุ้น DTAC และไม่ได้ใช้ DTAC :P
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น