4 มิถุนายน 2558

ศัพท์หุ้นพื้นฐานที่มือใหม่ควรรู้

เนื่องด้วยคุณแฟนของผมยิงสายตรงเข้ามาบอกว่า "ต้น เค้าอยากรู้เรื่องหุ้น เขียนศัพท์ที่เค้าควรจะรู้มาให้หน่อยจะได้มั้ยคะ" แหม่ จะให้ขัดได้ยังไงล่ะ ผมเลยเขียนจัดให้ 45 คำซะเลย และไหนๆ ก็ไหนๆ ผมว่ามันคงจะมีประโยชน์สำหรับคนอื่นๆ เหมือนกัน ซึ่งศัพท์ทั้งหมดที่ผมเขียนก็มีดังนี้

ศัพท์หุ้นพื้นฐานที่ควรรู้

1) VI

ย่อมาจาก Value Investor หมายถึงนักลงทุนแบบเน้นคุณค่า 

2) Technical Analysis

การวิเคราะห์ด้วยปัจจัยทางเทคนิค ถ้าความหมายง่ายที่สุดก็คือการดูกราฟ หรือดูรูปแแบบของกราฟ

3) PE

อัตราส่วนระหว่างราคาหุ้นเทียบกับกำไรต่อหุ้น ค่าที่ได้จะออกมาเป็นเท่า ไว้วัดความถูกและแพงของหุ้นแบบหยาบๆ

4) P/BV

ราคาต่อมูลค่าตามบัญชี ค่าที่หาได้มีหน่วยเป็นเท่า

5) EPS

กำไรต่อหุ้น หาได้จากการเอากำไรสุทธิ หารด้วยจำนวนหุ้นที่มีอยู่ทั้งหมด

6) Yield หรือ Dividend Yield

หมายถึงอัตราเงินปันผล หาได้จากการเอาเงินปันผลในปีนั้นๆ หารด้วยราคาหุ้นในปัจจุบัน ค่าที่ได้เป็น %

7) เด้ง

จะแปลว่าไงดีล่ะ 555+ 1 เด้งคือหุ้นขึ้น 100% นี่คือนิยามที่ง่ายที่สุด



นี่คือหุ้นเด้งในตำนาน CPALL 

8) อินดิเคเตอร์

เครื่องมือที่ใช้ในการดูกราฟ ยกตัวอย่างเช่น EMA, RSI เป็นต้น มีชื่อเล่นว่า "อินดี้"

9) โบรคเกอร์

บริษัทที่เป็นนายหน้าในการซื้อขาย (ไม่ใช่เฉพาะหุ้นอย่างเดียว) แต่ในที่นี้ขอกล่าวรวมๆ ว่าโบรคเกอร์ = โบรคเกอร์หุ้น

10) มาร์เก็ตติ้ง

คือคนที่สังกัดอยู่ในโบรคเกอร์

11) ค่าคอม

ค่าซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ เอ้ยไม่ใช่ หมายถึงค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหุ้นแต่ละครั้ง

12) Unrealize P/L

หมายถึงกำไรขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง เช่นสมมติซื้อหุ้นด้วยเงิน 1 ล้าน หุ้นตกจนเหลือ 9 แสนบาทแต่ยังไม่ขาย ส่วนที่ขาดทุน 100,000 คือกำไรขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง

13) Realize P/L

กำไรขาดทุนที่เกิดขึ้นจริง

14) ATO/ATC

คือการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นช่วงก่อนเปิดตลาดและก่อนปิดตลาด

15) SET Index

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

16) MAI Index 

ดัชนีตลาดอีกตัวหนึ่ง ต่างจาก SET ตรงที่ MAI นั้นบริษัทที่จดทะเบียนเข้ามาส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดไม่ใหญ่มาก

17) Spread

หมายถึงช่วงราคา เช่นหุ้นราคา 1.00 บาท จะขึ้นลงทีละ 0.01 หรือหุ้นราคา 5 บาท จะขึ้นลงทีละ 0.05 บาท เป็นต้น

18) ขายหมู

ขายหุ้นแล้วหุ้นดันขึ้นต่อ

19) ติดดอย

ซื้อหุ้นแล้วดันลงต่อ



ติดดอย.. คำสั้นๆ ที่พูดเบาๆ ก็เจ็บ

20) ตกรถ

ไม่ได้ซื้อหุ้นแต่ราคาดันขึ้น บางทือาจเกิดต่อจากการขายหมูก็ได้

21) จ้าว

บุคคลที่น่ารักและน่ากลัวที่สุดในตลาดหุ้น หน้าที่คือสร้างข่าว ปั่นราคา หรืออะไรก็ตามแต่ แต่แน่นอนว่าสามารถคอนโทรลราคาหุ้นได้

22) หุ้นปั่น

ไม่มีคำนิยามที่แน่นอนนัก ถ้าให้แปลแบบกว้างๆ ก็คือ หุ้นที่ขึ้นแบบ.. "สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น" โดยไร้พื้นฐานหรือเทคนิคใดๆ รองรับ

23) เม่า

นักลงทุนรายย่อยอย่างเราๆ ท่านๆ แต่สำหรับผมแล้วความหมายอาจดูเชิงลบนิดหน่อยเพราะเม่าชอบบินเข้ากองไฟ

24) Day Trade

คือคนที่เข้าไปทำกำไรแบบวันเดียวจบ ซื้อขายภายในวัน ไม่นิยมห่อหุ้นกลับบ้าน

25) Run Trend

ถือหุ้นยาวไปเรื่อยๆ ตราบใดที่มันยังขึ้น และขายเมื่อมันเริ่มกลับตัวเป็นขาลง

26) Hybrid

นักลงทุนที่ใช้การลงทุนทั้งสองศาสตร์รวมกัน คือวีไอและเทคนิค

27) งบการเงิน

สิ่งที่บริษัทจะรายงานเราทุกๆ ไตรมาสว่ากิจการนั้นยังดีอยู่หรือใกล้จะเจ๊งแล้ว

28) หมายเหตุประกอบงบการเงิน

คือสิ่งที่นักบัญชีได้เขียนอธิบายรายการต่างๆ ในงบการเงิน ว่ามันมีที่มาที่ไปยังไงบ้าง

29) หุ้น IPO

หุ้นที่เพิ่งจดทะเบียนเข้าตลาดและเทรดกันเป็นวันแรก

30) Volume

ปริมาณการซื้อขาย ว่ามีปริมาณการซื้อขายกี่หุ้น

31) Value

มูลค่าการซื้อขาย คิดจากการเอาราคาหุ้น x Volume

32) ทุบ

ใครสักคน (จ้าวมือนั่นเอง) ที่ขายหุ้นทิ้งอย่างหนักหน่วงจนราคาร่วงแบบถล่มทลาย

33) ลาก

ใครสักคน (จ้าวอีกแล้ว) ซื้อหุ้นอย่างหนักหน่วงจนทำให้ราคาพุ่ง

34) Bid

ราคาเสนอซื้อ จะอยู่ฝั่งซ้ายมือ

35) Offer 

ราคาเสนอขาย อยู่ฝั่งขวามือ



จะสังเกตเห็นว่าราคาจะไม่เท่ากันเลย เพราะถ้าเมื่อใดก็ตามที่ราคาเท่ากัน แปลว่าได้เกิดการจับคู่การซื้อขายเรียบร้อยแล้ว

36) แท่งเทียน

ประเภทของกราฟที่มีคนดูกันมากที่สุด เพราะในหนึ่งแท่งจะประกอบด้วยข้อมูลสี่ตัวคือ ราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุด และราคาต่ำสุด

37) OHLC

ย่อมาจาก Open High Low Close คือราคาเปิด ราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด และราคาปิด

38) ต้มยำกุ้ง

วิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2540 ทำให้ดัชนี SET ร่วงจาก 1,700 จุดเหลือแค่ 200 จุด

39) แฮมเบอร์เกอร์

วิกฤติเศรษฐกิจปี 50 ที่มีสาเหตุมาจากอเมริกา ทำให้ตลาดบ้านเราตกจาก 800 เหลือ 200 จุด

40) Circuit Breaker

มาตรการที่เอาไว้ "ควบคุมความแตกตื่นของคน" โดยเฉพาะ เป็นการพักการซื้อขายทันทีหาก SET ปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงเกิน 10% ภายในวันเดียว

41) ติดแคช

ย่อมาจากติด Cash Balace คือหุ้นที่ซื้อได้ด้วยบัญขีเงินสดเท่านั้น

42) Margin

การกู้เงินจากโบรคเพื่อมาเล่น

43) Ceiling

เพดานสูงสุดที่หุ้นจะขึ้นได้ในวันนั้น คือไม่เกิน 30%

44) Floor

ราคาต่ำสุดที่หุ้นจะลงได้วันนั้น คือห้ามลงเกิน 30%

45) Gap

การที่ราคาหุ้นเมื่อวานปิดที่ 5 บาท แล้ววันนี้ราคาเปิดไป 5.40 บาท นั่นคือ Gap มันหมายถึงช่องว่าง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น