“วิกฤติตลาดหุ้น” แน่นอนว่าสิ่งนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิดถ้าตัวเองไม่รู้ตัวแน่ๆ จริงรึเปล่าครับ ? แต่ผมมั่นใจว่าทุกคนน่าจะเคยได้ยินทฤษฎีขำๆ เกี่ยวกับร้านหนังสือกันมาบ้าง ที่กล่าวว่า เมื่อใดก็ตามที่หนังสือหุ้นติด Best Seller หรือเป็นหนังสือแนะนำประจำร้าน เมื่อนั้นคือจุดสูงสุดของตลาดหุ้นแล้ว
แต่เมื่อสองสามวันก่อน ผมไปเดินเที่ยวที่ห้างดังในย่านบางนา ปรากฎว่ามีร้านหนังสือร้านนึงที่หนังสือแนะนำหน้าร้านเป็นหมวดหมู่ “นิยายสยองขวัญ” แทนที่จะเป็นหมวดการลงทุนเหมือนที่ผ่านมา (ยังกับว่าตลาดหุ้นเป็นสิ่งที่น่าสยดสยองไปแล้ว) และในหมวด 10 อันดับหนังสือขายดีที่สุด ก็ไม่มีวี่แววของหนังสือการลงทุนอยู่เลย พร้อมๆ กับดัชนีที่ค่อยๆ ไต่ขึ้นอีกด้วย
หากถามว่าเพราะอะไร “หนังสือ” จึงอาจเป็น Indicators ที่ใช้วัดความร้อนแรงของตลาดได้ ในมุมมองส่วนตัว ผมคิดว่าเมื่อไหร่ทีตลาดหุ้นกลายเป็น Superstar และใครๆ ก็มองว่ามันง่าย (หากสังเกตดูก่อนตลาดจะล่มทุกครั้ง จะมีเซียนอยู่เต็มตลาด) นั่นอาจไม่ใช่สัญญาณที่ดี เพราะตลาดหุ้นไม่ได้แจกเงินให้กับทุกคนครับ ในระยะยาวแล้วคนที่อยู่รอดได้ต้องเป็นคนที่มีความพยายามจริงๆ เท่านั้น และเรื่องการลงทุนมันไม่ใช่แค่การอ่านหนังสือแล้วรวยได้ มันต้องใช้ทั้งสัญชาตญาณและประสบการณ์ควบคู่กันไป
แต่ในอนาคต ตลาดบ้านเราจะวิ่งต่อไปได้อีกไกลแค่ไหน ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และเมื่อถึงวันนั้น ต้องมีเราอยู่ด้วยนะครับ :)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น