20 กันยายน 2558

กระแสเงินสดของเทรดเดอร์

ผมเชื่อว่านักลงทุนทุกคนย่อมรู้จักเงินปันผล ใครบ้างจะไม่รู้จักล่ะ เพราะเงินปันผลเป็นสิ่งที่หลายๆ คนปรารถนาและชื่นชอบจนอาจเป็นจุดประสงค์หลักในการลงทุนเลยก็ได้ เพราะเราต่างก็รู้กันว่าเจ้าเงินปันผลนี้แหละที่สามารถสร้าง Passive Income หรืออิสรภาพทางการเงินให้กับเราได้

ไม่ต้องเอาตัวอย่างที่ไหน อย่างดร.นิเวศน์ที่เข้าซื้อหุ้น CPALL ตั้งแต่ประมาณ 4 บาท ตอนนี้ท่านเองได้รับปันผลจากหุ้นตัวนี้เพียงตัวเดียวก็เป็น "สิบๆ ล้าน" แล้ว นั่นทำให้มันน่าสนใจขึ้นไปอีกในฐานะเครื่องมือสร้าง "กระแสเงินสด" ชั้นเยี่ยม



















จึงไม่แปลกที่ทำให้ในปัจจุบัน มีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่เข้าซื้อหุ้นเพื่อหวังปันผลล้วนๆ โดยไม่ได้สนใจราคาหุ้นสักเท่าไหร่ เข้าคอนเซปประมาณว่า ราคาข้าไม่เกี่ยง ปันผลจ่ายคงที่หรือมากขึ้นก็พอแล้ว

แต่ทีนี้ปัญหาก็เริ่มเกิดขึ้น ถ้าเราอยากจะมี Passive Income จากหุ้น มันจำเป็นต้องมาจากเงินปันผลอย่างเดียวเหรอ ?

 ถ้าตอบแบบง่ายๆ ก็.. ใช่ครับ เงินปันผลเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เข้าหลักการของอิสรภาพทางการเงินอย่างแท้จริง เพราะคำๆ นี้มันหมายถึงเรามีอิสรที่จะทำหรือไม่ทำงานก็ได้ โดยที่รายได้เท่าเดิมหรือมากกว่า ซึ่งหากเราเป็นเทรดเดอร์ ไม่ว่าจะสายพื้นฐานหรือเทคนิค ตราบใดที่เรายังซื้อขายอยู่ นั่นก็ไม่นับเป็น Passive Income

เพียงแต่ว่า คำตอบเมื่อกี้ผมตอบแบบจริงจังในหลักการสุดๆ ไปเลย และไม่มีหลักการไหนซะหน่อยที่บอกว่าคนที่ซื้อขายหุ้นจะมีอิสรภาพทางการเงินไม่ได้ !

ในหนังสือชื่อดังอย่าง How To Make Money In Stock ได้แนะนำสิ่งนึงที่ผมชอบมากๆ เลยก็คือ หากนักลงทุนคนไหนที่ลงทุนเป็นงานหลักและจำเป็นต้องใช้เงินเลี้ยงตัวเอง ก็แค่ถอนเงินจากพอร์ตออกมาสิ จะไปยากอะไร ! ถอนทุกครึ่งปี ครั้งละ 1.5% ของมูลค่าพอร์ตโดยรวมก็ได้ (แต่ต้องไปคำนวณค่าใช้จ่ายตัวเองด้วยนะว่าตกเดือนละเท่าไหร่)


















เช่นสมมติ เรามีพอร์ตนิดหน่อยประมาณ 100 ล้าน (นิดนะเนี่ย) แล้วในแต่ละเดือนเรามีรายจ่ายประมาณ 100,000 บาท หากถอนเงินทุกครึ่งปี ครั้งละ 1.5% ก็เท่ากับว่าเราจะมีกระแสเงินสดมาใช้ถึง 1.5 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายเรามีแค่ 6 แสนบาท ดังนั้นเงินที่เหลืออีก 9 แสน เราก็สามารถเอาไปออมให้ลูก ลงทุนต่อ หรือจะเก็บเป็นเงินสำรองฉุกเฉินก็ยังได้

แต่บางคนก็อาจรู้สึกแปลกๆ ที่จะต้องถอนเงินในพอร์ตออกมาใช้ และเลือกที่จะเอาเงินไปซื้อหุ้นปันผลเพื่อสร้างกระแสเงินสดเหมือนที่คนอื่นๆ ทำกัน ถามว่าผิดมั้ย ? ไม่ผิดครับ แต่เราต้อง "เก่งจริง" และ "ตลาดเป็นใจ" ด้วย

ที่ผมบอกแบบนี้ก็เพราะว่า หากเราเป็นเทรดเดอร์หรือนักลงทุนที่เชี่ยวชาญในการหาหุ้นเติบโต การที่เราได้ปันผลปีแรก 5% และปีต่อไปเติบโตเพิ่มอีกนิดสักปีละ 10% โดยเฉลี่ย มันก็ยังเทียบไม่ได้เลยหากเราหาหุ้นที่เจ๋งพอจนมันโตไป 5 เด้งได้ เรามีวิธีที่ดีกว่าและถัดกว่า จะเสี่ยงใช้ในสิ่งที่ด้อยกว่าไปทำไม






















เรื่องภาวะตลาดก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องคิดสำหรับหุ้นปันผล เพราะในยุคนี้ที่ PE ตลาดปาไป 20 เท่า แถม Dividend Yield อยู่แค่ประมาณ 2-3% มันคงเป็นไปได้ยากมากที่จะหาหุ้นแบบ CPALL ในอดีตซึ่งจ่ายปันผลสูงๆ และเป็นหุ้นเติบโตอีกต่างหาก ของดีราคาถูกมันมีอีกแน่ เพียงแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้

มีคำพูดติดตลกของนักลงทุนคนนึงเคยบอกเอาไว้ว่า "เงินนี้ไม่ใช่เงินศักดิ์สิทธิ์จนจับต้องไม่ได้ ถอนมันออกมาใช้ซะบ้าง" ดูท่าจะไม่ใช่เพียงแค่คำพูดตลกๆ ธรรมดาซะแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น