ซึ่งการดูแท่งเทียนก็จะมีหลายกรอบเวลา (Time Frame) เรามามารถเลือกได้ว่าจะดูภาพ Day (หนึ่งแท่งแทนหนึ่งวัน) ภาพ Week (แท่งละสัปดาห์) หรือภาพ Month จนกระทั่งภาพที่เล็กที่สุดอย่างแท่งละ 1 นาทีก็มี
สาเหตุที่ต้องมีหลายกรอบเวลานั้นเพราะขึ้นอยู่กับสไตล์คนเล่นครับ บางคนที่เป็นเทรดเดอร์อาจใช้ TF 30 นาที ขณะที่นักลงทุนระยะยาวอาจใช้กราฟ Week เป็นตัวตัดสินใจซื้อหุ้นเพื่อลงทุนก็ได้ ไม่มีใครถูกผิด ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม
แต่มันจะผิดทันทีถ้าทำแบบผมนั่นแหละ !
ในการดูกราฟแท่งเทียน เพื่อให้เกิดความแม่นยำมากที่สุด เราควรตัดสินใจที่จะซื้อหรือขายตอนจบแท่ง ความหมายก็คือ สมมติเราอยากซื้อหุ้น XX โดยใช้ TF 1 ชั่วโมงในการหาจังหวะซื้อขาย เราก็ควรจะออก Action ตอนที่จบแท่ง (คือตอนที่กราฟเกือบจะครบชั่วโมงแล้ว)
เพราะหุ้นเกือบทุกตัวนั้นมีพฤติกรรมที่ "ไม่น่ารัก" คือแท่งเทียนบางแท่งอาจมีไส้ที่ยาวววเป็นโยชน์ (นั่นคือราคาสูงสุดต่ำสุด) คิดเล่นๆ ว่าหากเรานั่งเฝ้าจออยู่ แล้ว Bid หายไปทีละช่องอ่ะ มันจะน่ากลัวขนาดไหน
เกือบลืมเล่าประสบการณ์ที่ผมเพิ่งเจอมาซะแล้ว คืออย่างนี้ครับ ก่อนหน้านี้ประมาณเดือนธันวาคม ผมได้เข้าซื้อหุ้นตัวนึงโดยใช้กราฟ Week ซึ่งในการซื้อที่ดีผมก็ควรจะซื้อตอนเย็นวันศุกร์ ถูกมั้ยครับ เพราะนั่นคือการจบแท่งของกราฟ Week
อ้อ หุ้นตัวนั้นคือหุ้น TRC และช่างบังเอิญมากๆ ที่วันนั้นเป็นวันจันทร์ ผมจะต้องรออีกสี่วันกว่าจะได้ซื้อหุ้นเลยเหรอเนี่ย ??
โชคร้ายตรงที่ผมไม่ได้รอครับ ผมเผลอกดซื้อด้วยอารมณ์โลภล้วนๆ ที่ราคา 4.70 บาท และผ่านไปสามสี่วัน ราคาหุ้นก็ลงไปพอสมควร (ถ้าจำไม่ผิดลงไปประมาณ 5-10%)
แต่ความโง่เขลาของผมยังไม่จบเพียงเท่านั้น กฎอีกข้อนึงสำหรับการดูกราฟนั่นคือ หากเราใช้กรอบเวลาใดในการเล่น ก็ให้ออกด้วยกรอบเวลานั้น "อย่า" ทะลึ่งเข้าด้วยกราฟ Day และออกด้วยกราฟ Week เด็ดขาด และทุกคนคงเดาได้ครับ ตอนนั้นผมทะลึ่งจริงๆ นั่นแหละ แหกกฎข้อนี้เฉยเลย
ถ้าทุกคนยังจำได้ ช่วงก่อนสิ้นปีมีอยู่วันนึงที่มูลค่าการซื้อขายสูงถึงหนึ่งแสนล้านบาท กราฟในวันนั้นผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน ลงไปร้อยกว่าจุดแต่สุดท้ายก็ตีตื้นกลับมาได้ หุ้นหลายตัวโดยเฉพาะหุ้นใหญ่ๆ ราคาร่วงไปหลายสิบ % แต่พอสิ้นวันกลับขึ้นมายืนที่เดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หุ้น TRC ที่ผมถือตอนนั้นเช่นกัน จำได้แม่นมากเลยว่าตอนนั้นราคาไหลลงไปเหลือประมาณ 3.98 บาท แถมมีแต่คนขายอย่างต่อเนื่อง ไอ้เราที่นั่งเฝ้าจอก็กลัวสิครับ ราคาหายไปทีละช่องสองช่อง สุดท้ายผมก็ขายทิ้งที่ราคาประมาณ 3.96 บาท กำไรที่ทำมาทั้งปี 57 หายไปในวันนั้นนั่นเอง
ใช่ครับผมขาย ! ทั้งๆ ที่กราฟ Week ยังไม่จบเลย หากไปดูย้อนหลังจะพบว่าหุ้น TRC แม้จะมีไส้ประหลาดๆ โผล่ออกมาก็ตาม แต่ราคาก็ยังสามารถยืนเหนือเส้น EMA 5 กับ 10 ได้ด้วยซ้ำไป จนในตอนนี้ราคาหุ้นก็ทะลุ 10 บาทเป็นที่เรียบร้อย เจ๋งมั้ยล่ะ เลือกหุ้นถูกตัวแต่เล่นผิดแบบมโหฬารเลย
อย่างกรณีล่าสุดที่เกิดขึ้นกับผมก็คล้ายๆ กับหุ้น TRC ครับ เมื่อประมาณสองสัปดาห์ก่อนผมซื้อหุ้น NINE ที่ทุนเฉลี่ยประมาณ 7.35 บาท (กราฟ Day) มันก็ขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างสวยงามนะ ราคาปิดสูงสุดที่มันทำคือ 9.70 บาทแหน่ะ
แต่เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลก พอวันพฤหัสที่ผ่านมา ราคาหุ้น NINE ลดลง 15% ในวันเดียว ! แถมเมื่อวันศุกร์ยังจี๊ดกว่านั้นอีกครับ จี๊ดแค่ไหนดูตามรูปได้เลย
แท่งริมขวาสุดคือราคาหุ้นเมื่อวันศุกร์นะครับ ตอนสิบโมงที่ตลาดเปิดผมก็เฝ้าจออยู่นะ ใครจะไปคิดว่าราคาจะเปิด Gap ลง (เปิด Gap คือเปิดแบบที่เห็นในภาพครับ เป็นช่องว่าง นั่นแหละ Gap) ที่ 8 บาท แถมไหลลงไปเหลือ 7,15 บาทในเวลา 3 นาที !!
แล้วผมได้ขายไปรึเปล่า ? แหม่ ถ้าขายมันก็เป็นเหมือนหุ้น TRC สิครับ ผมจึงแก้ปัญหาด้วยวิธีการง่ายๆ อย่าง "ปิดจอ" แล้วก็นั่งเรียนต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ใจผมในตอนนั้นโคตรว้าวุ่นเลย
แต่สุดท้ายพอตกเย็น ราคาหุ้นดันถูกไล่ราคามาปิดที่ 8.50 บาท เป็นบวกเฉยเลย ถ้าผมเฝ้าจอทั้งวันผมคงขายที่จุดต่ำสุดแน่ๆ ผมยิ่งดวงดีอยู่ด้วย (ประชดนะ)
คงไม่ต้องสรุปอะไรให้มากความ แค่ตัวอย่างของหุ้น TRC กับ NINE ก็น่าจะพอแล้วนะครับสำหรับการอธิบายว่าการซื้อหรือขายหุ้นตอนสิ้นแท่ง มันสำคัญขนาดไหน
ถ้าหุ้นมันลงในระหว่างวันล่ะ ? ก็ทำตามระบบสิครับ ปิดจอไปเลยก็ได้ แล้วค่อยเปิดอีกทีตอนสิ้นแท่งยิ่งดีเลย !
ปล. ผมขายหุ้น NINE แล้วเน้อ อย่าตามผมล่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น