14 มีนาคม 2558

เล่นกับเป้า !?

ดูเหมือนคำถามที่ว่า "เล่นหุ้นแบบไหนดี" จะยังคงเป็นคำถามสุดฮิตสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ เพราะถึงแม้แนวทางของการลงทุนจะแบ่งได้เป็นสองทางหลักคือพื้นฐานและเทคนิค แต่รายละเอียดยิบย่อยนั้นมันมีอีกเยอะมาก

ถ้างั้นแนวไหนดีที่สุด ? อืม.. พอมีคนถามผมทีไรผมก็ตอบว่าไม่รู้ตลอดแหละ 5555 เหมือนที่ผมชอบพูดเสมอว่ามันเหมือนกับการจีบสาว คนบางคนอาจจะชอบสาวเปรี้ยวแสบซ่า หรือบางคนอาจชอบกุลสตรีที่คะขาทุกคำก็ได้ ไม่มีอะไรถูกผิด

ซึ่งการหาแนวทางของตัวเองคือสิ่งสำคัญ แต่มันจะยากหน่อยเพราะเราอาจต้องเสียเวลาขึ้นเพื่อลองผิดลองถูก หรือถ้าอยากได้ทางลัดเพิ่มอีกนิดคือทำเหมือนผมก็ได้ครับ อ่านเยอะๆ ทุกวันนี้ผมก็นั่งอ่านหนังสือฟรีตามร้านเหมือนเดิมนะ

แต่ผมมีเคล็ดลับอย่างนึงมาบอก ถ้าเกิดเราอ่านหนังสือแล้วยังไม่รู้ว่าจะใช้แนวทางไหนดี ลองใช้วิธี "กำหนดเป้าหมาย" สิ !





การกำหนดเป้าหมายในใจนี้ไม่ใช่แค่ว่า "เพื่ออิสรภาพทางการเงิน" หรือ "อยากรวย" เท่านั้น แต่มันหมายถึงเป้าหมายชัดๆ ในเวลาที่ชัดๆ ไปเลย อย่างในกรณีของผมเองก็ตั้งเป้าไว้บ้ามากๆ พอสมควร.. สมมติให้เงินโต 5 เท่าละกัน และต้องทำให้ได้ภายในมิถุนายนปีนี้ เราก็ต้องมาคิดแล้วว่าควรใช้การลงทุนแบบไหนดี

ภายในเวลาหกเดือน.. ลงทุนแบบ VI มันไม่ได้แน่ๆ ก็ตัดทิ้งไป ก็จะเหลือแค่การลงทุนแบบเทคนิค แล้วใช้เครื่องมือตัวไหนดีล่ะ ? EMA เส้นสั้นๆ หน่อยก็ได้นะ แล้วจะเล่นหุ้นประเภทไหน ? ก็คงต้องเป็นหุ้นที่ราคาต่ำกว่า 10 บาทเพราะมันถูกปั่นไปหลายเด้งได้ง่ายกว่า (ต้องหุ้นเล็กด้วย เราคงไม่หวังว่าหุ้น Market Cap แสนล้านจะโตห้าเด้งในเวลาหนึ่งเดือนแน่) นี่คือวิธีคิดคร่าวๆ ของการกำหนดเป้าหมายเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมที่สุด

ถ้าหากเป็นเป้าหมายที่ยาวหน่อยอย่างเช่น ต้องการให้เงินโต 20 เท่าในเวลาสิบปี ก็ทำเหมือนกันครับ เราแค่มาเลือกก่อนว่าเราจะใช้การลงทุนแบบใด หากสมมติในกรณีนี้ชอบทั้งสองแนวทาง เราอาจคัดหุ้นด้วยปัจจัยพื้นฐาน แล้วอาศัยกราฟ Week ในการเข้าซื้อก็ทำได้เหมือนกัน

ข้อดีอีกอย่างของการกำหนดเป้าหมายแบบชัดๆ คือเราจะตัดอะไรที่มันไม่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายได้ง่ายๆ ครับ อย่างในกรณีที่ผมบอกว่าอยากให้เงินโต 20 เท่าในสิบปี หุ้นประเภทไหนที่เราจะลงทุนได้บ้างล่ะ ? คงไม่ใช่หุ้นปตท.แน่ๆ เพราะนั่นคือหุ้นใหญ่  ก็ต้องเป็นหุ้นขนาดกลางหรือไม่ก็ขนาดเล็กเท่านั้น

ก็เป็นอีกวิธีง่ายๆ ที่ผมว่าใช้ได้ผลนะ เพราะหลังจากที่ผมกำหนดเป้าหมายแบบชัดเจนนั่นล่ะครับเลยทำให้หันมาใช้เทคนิคแบบเต็มตัว ทำสำเร็จได้เมื่อไหร่ค่อยวางแผนใหม่ เพราะหากเราลงทุนโดยไม่สอดคล้องกับจริตหรือเป้าหมายที่ต้องการ โอกาสขาดทุนมันสูงมาก




เหมือนการขับรถโดยไม่มองทางนั่นแหละ เสี่ยงกว่าการเหยียบ 180 แต่มองทางอย่างตั้งใจเยอะเลยนะเออ !

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น