29 มีนาคม 2559

1 ปี 2 เดือน 13 วัน.. SVI ก็กลับมาที่ 6 บาท

หลังจากผ่านพ้นไปกว่า 5 ชั่วโมง เปลวไฟก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะดับลงง่ายๆ เสียงท่อลมที่ระเบิดดังสนั่นเป็นระยะๆ ทำให้ทั้งนักผจญเพลิงและผู้เกี่ยวข้องต้องทำงานกันอย่างสุดความสามารถ เพราะทุกวินาทีที่เสียไปในกองไฟ เท่ากับว่าเงินแต่ละบาท แบงค์สีเทาแต่ละใบ ก็กำลังมอดไหม้ไปเช่นกัน


แม้จะยังไม่มีใครทราบตัวเลขที่แน่นอนนัก แต่หลายคนต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจมีมูลค่ามากกว่าหนึ่งพันล้าน รวมถึงกระทบกำลังการผลิตของบริษัทนี้ด้วย


บริษัทที่มีชื่อว่า SVI ทุกท่านยังจำได้ใช่ไหมครับ ?


ในวันต่อมา (12 พฤศจิกายน 2557) ราคาหุ้นของ SVI ก็ร่วงอัดฟลอร์อย่างรุนแรง จากเดิมที่ราคา 6.05 บาทเมื่อวันก่อน ผ่านไปวันเดียวราคาเหลือเพียงแค่ 4.24 บาทเท่านั้น พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายกว่า 700 ล้านหุ้น




ใครกันล่ะที่ขาย ? ไม่ใช่เพียงแค่นักลงทุนรายย่อยอย่างเราๆ ท่านๆ เพียงอย่างเดียวครับ แม้กระทั่งนักลงทุนรายใหญ่ก็ตาม มีคนที่ต้องยอมทิ้งหุ้นในวันนั้นและสูญเงินกว่า "สิบล้าน" ภายในชั่วข้ามคืน แถมไม่ใช่แค่คนเดียวนะครับ รายใหญ่และเซียนหลายคนเช่นกันที่ต้องยอมขายมันทั้งน้ำตา

12 มีนาคม 2559

ธรรมชาติของเส้นค่าเฉลี่ย

ไม่มีนักลงทุนคนไหนที่ไม่รู้จักเส้นค่าเฉลี่ย (Moving Average) ต่อให้เป็นนักลงทุนสายปัจจัยพื้นฐานก็ตาม เพราะเจ้าเครื่องมือตัวนี้ นอกจากจะมีคนใช้เป็นจำนวนมาก การทำความเข้าใจในที่มาของเส้นแต่ละเส้นก็ไม่ได้ยากเหมือนเครื่องมือตัวอื่น รวมถึงวิธีการใช้งานแบบคร่าวๆ ก็ไม่ได้ยุ่งยากและซับซ้อนเลย

เพราะคอนเซปของมันก็คือ ถ้าราคาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย มันย่อมมีโอกาสขึ้นมากกว่าลง และยิ่งเส้นค่าเฉลี่ยนั้นมีค่ามากเท่าไหร่ก็ตาม (เช่น คำนวณจากราคาปิดย้อนหลัง 200 วัน) มันก็เป็นอะไรที่ Strong Trend สุดๆ ยากที่ราคาหุ้นจะต่ำลงกว่าเส้นค่าเฉลี่ยนั้นได้

ง่ายมั้ยครับ ? บอกเลยว่าง่ายถ้าเราดูแค่นี้ แต่ในการใช้งานจริง มันดันมีมากกว่านั้นเยอะ


1. เส้นค่าเฉลี่ยไม่ได้แม่นอย่างที่คิด

จริงอยู่ที่ผลการทดสอบระบบการเทรดด้วยเส้นค่าเฉลี่ยเพียงอย่างเดียว พบว่าในระยะยาวแล้วอาจได้กำไรสูงถึง 15% ต่อปีโดยเฉลี่ย แต่ย้ำครับว่าระยะยาว แน่นอนว่าในภาพสั้นๆ การขาดทุนย่อมมีโอกาสเกิดขึ้น ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น การขาดทุนติดต่อกัน 20 ครั้งจากการเทรดด้วยเส้น Moving Average เพียงอย่างเดียวก็เกิดขึ้นได้อยากไม่ยากเย็นนัก



การซื้อขายติดต่อกันบ่อยๆ คือสิ่งที่เกิดขึ้นได้หากใช้การเทรดแบบตัดขึ้นตัดลง เราคงไม่อยากเจอแบบนี้แน่ๆ เพราะมันคือไซด์เวย์

ต่อให้เราคุมความเสี่ยงที่ 2% ของพอร์ต โดนติดกัน 20 ครั้งก็ลบไปราวๆ 40% แล้วครับ นอกจากจะเสียเงินแล้ว จิตใจเทรดเดอร์ของเรายังถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี และการขาดทุนติดต่อกันรัวๆ มันสามารถทำให้เราเสียศูนย์ได้ง่ายกว่าที่คิด