10 มกราคม 2559

วิธีหาหุ้นลง !?

มันคงเป็นเรื่องประหลาดถ้าผมจะบอกว่าให้เราหาหุ้นลงแทนที่จะหาหุ้นขึ้น ? เพราะตามสามัญสำนึกแล้วเราจะซื้อหุ้นที่ในอนาคตราคาจะลงไปทำไม ถูกต้องมั้ยครับ ใครๆ ก็อยากได้หุ้นที่วิ่งขึ้นกันทั้งนั้น นอกเสียจากคนที่เก็บหุ้นเพื่อรับเงินปันผลเพียงอย่างเดียวที่อาจไม่สนเรื่องนี้สักเท่าไหร่





ถ้าเราไม่ได้เทรด TFEX, ชอร์ตหุ้น หรือเทรด Put DW เราจะมองหาหุ้นลงตัวต่อไปเพื่ออะไร นี่ล่ะครับคือสิ่งที่ผมคิดในตอนแรก จนถึงกับมองว่ามันไม่มีประโยชน์ด้วยซ้ำ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า


จนวันนึง ผมได้ไอเดีย "มองหาหุ้นในขาลง" มาจากปรมาจารย์ที่หลายคนน่าจะรู้จักกันดี "พี่หยง" ธำรงชัย เอกอมรวงศ์ โดยที่สมมติฐานของพี่หยงก็คือ ตอนนี้เนี่ยมีแต่คนมองหาหุ้นขึ้น เราต้องหัดมองหาหุ้นลงแบบคนที่เล่น Futures หรือเล่นชอร์ตหุ้นบ้าง จุดประสงค์หลักไม่ใช่เพื่อทำกำไรครับ แต่เพื่อป้องกันความ Bias ต่อหุ้นที่เราวิเคราะห์



คิดดูเล่นๆ สมมติหุ้นตัวนึงที่พื้นฐานดีมากๆ ราคาไหลลงมาสัก 50% แน่นอนอัตราส่วนเงินปันผลหรือรวมถึงค่า PE มันต้องต่ำมากๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าเราจะกดเคาะขวาตามที่หัวใจเรียกร้อง แต่ไม่มีอะไรในโลกนี้มาหยุดการลงของหุ้นที่เป็นขาลงได้ แม้พื้นฐานจะดีสักแค่ไหนก็ตาม


ในสายของเทคนิคก็เช่นกัน หุ้นสักตัวนึงที่ราคาวิ่งสูงแล้วสูงอีก ทำ New High อย่างต่อเนื่อง ถ้าเราซื้อแบบไม่ลืมหูลืมตาด้วยเหตุผลว่า เนี่ย มัน New High มันต้องขึ้นไปถึงดวงจันทร์แน่ๆ โดยที่ไม่ได้ตรวจสอบเลยว่าวอลุ่มมันหายเกลี้ยง หรือมีสัญญาณกราฟอะไรบ้างที่บ่งบอกว่ามันเกิดภาวะ Bearish Divergent อะไรจะเกิดขึ้นต่อล่ะครับ ก็ดอยอวกาศน่ะสิ


Click image for larger version

Name: 041.png
Views: 1
Size: 67.2 กิโลไบต์
ID: 219771



นี่คือหุ้น BLA ซึ่งก่อนจะมีการแจกปันผลเป็นหุ้นนั้น ราคาอยู่ที่ราว 90 กว่าบาท และหลายๆ คนต่างเชื่อมั่นเป็นอย่างมากว่ามันต้องทะลุ 100 บาท ท้ายที่สุดแล้วก็ไปไม่รอด (ในภาพคืออินดิเคเตอร์ ADX)


การมองหาหุ้นที่จะลงเป็นตัวต่อไปสามารถเข้ามาช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้ครับ อย่างน้อยมันจะเป็นเหมือนสัญญาณเตือน ว่า ณ จุดๆ นี้ราคาหุ้นมีสิทธิลงได้ต่อ หรือราคาหุ้นกำลังจะกลับตัวในไม่ช้า 


แต่มันก็ไม่ใช่หลักครอบจักรวาลซะทีเดียว บางทีเราขายหุ้นไปแล้ว แทนที่จะลงมันก็อาจวิ่งขึ้นต่อได้แบบหน้าตาเฉย นักลงทุนอย่างเราก็ต้องมาชั่งน้ำหนักเองแล้วล่ะครับ ว่าจะเลือกอะไร ระหว่างขายหมูไปบ้างแต่ไม่เจ็บตัว หรือเน้นกำไรแบบสุดๆ พร้อมกับโอกาสดอยทีเพิ่มขึ้น


ยิ่งในภาวะตลาดแบบนี้ สติคือสิ่งที่สำคัญที่สุด การเชื่อมั่นในข้อมูลหรือปัจจัยบางอย่างมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อ Portfolio อย่างมหาศาลได้ โชคดีมีกำไรครับทุกท่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น