19 ธันวาคม 2558

ไม่ต้องมองไกล จันทร์นี้หุ้นสื่อสารจะขึ้นหรือลง ?

หลังจากที่การประมูล 4G เป็นที่เสร็จสิ้นกันไป หลายๆ คนต่างก็วิเคราะห์ว่าในอนาคตนั้นผู้เล่นทั้งสี่รายอันได้แก่ AIS, DTAC, TRUE และน้องใหม่อย่าง JAS จะเป็นอย่างไรต่อในอนาคต


แต่ถ้ามองสั้นๆ อย่างวันจันทร์นี้ล่ะ ! เจ้าเงิน 1.5 แสนล้านเจ้าปัญหานี้จะส่งผลกระทบยังไงต่อหุ้นสื่อสารแต่ละตัวบ้าง




อย่ามัวเสียเวลา เริ่มที่พี่ใหญ่อย่าง ADVANC กันก่อน อย่างที่เรารู้ว่าการประมูลครั้งนี้มันเข็มขัดสั้นมาก (คาดไม่ถึง) เพราะผู้ชนะคือ TRUE และ JAS ในขณะที่ ADVANC ซึ่งเป็นค่ายมือถือที่ใหญ่สุดและหน้าตักหนามาก กลับเลือกที่จะยอมแพ้ และให้เหตุผลแบบเก๋ๆ ว่า"มันแพงเกินไปจนไม่มีความคุ้มค่า"



แล้ววันจันทร์นี้หุ้น ADVANC ควรจะเป็นอย่างไรต่อไปล่ะ ? ทุกอย่างมันมองได้สองแง่ครับ หากมองบวก หุ้น ADVANC อาจมีสิทธิขึ้นมากกว่าลง เนื่องจาก 1) คลื่นตัวเองก็ยังมีให้ใช้แบบสบายๆ อาจเสียลูกค้านิดหน่อยจากคลื่น 900 เดิมที่กำลังจะหมดอายุ และ 2) ไม่มีหนี้เพิ่มจากค่าสัมปทานอันสูงลิ่ว


แต่ปัจจัยที่จะส่งผลให้หุ้น ADVANC ลงได้ ก็อาจมาจากมุมมองที่ว่าบริษัทเสียลูกค้าเดิมไป หรือถ้าคิดแบบง่ายที่สุด หุ้นอาจลงเพียงเพราะหุ้นในกลุ่มสื่อสารตัวอื่นลงก็เป็นได้



Click image for larger version

Name: 164.jpg
Views: 1
Size: 10.8 กิโลไบต์
ID: 218863

นี่สิอาจเป็นของจริงกว่า หลายๆ คนต่างเชื่อกันว่า การที่ DTAC ไม่ชนะในการประมูลคลื่นทั้งสองครั้งล่าสุด เปรียบเสมือนกับจุดจบของ DTAC ยังไงยังงั้นเลยทีเดียวเพราะคลื่นที่เหลืออยู่ของบริษัทก็กำลังจะหมดอายุในอีก 3 ปีข้างหน้ารวมถึงการให้บริการที่อาจไม่เพียงพอต่อผู้ใช้งานอีกด้วย (ยิ่งมีคลื่นมาก การใช้งานก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น) 


นอกจากนี้ ต่อให้ DTAC สามารถประมูลคลื่นชนะในครั้งนี้ ก็ต้องเจอกับรายจ่ายอีกมหาศาลที่จะตามมาหลอกหลอนงบการเงินไปอีกนาน นั่นคือ"ค่าตัดจำหน่าย" 


สำหรับท่านที่ยังไม่ทราบ ค่าตัดจำหน่ายมันก็คือค่าเสื่อมราคาดีๆ นี่เอง เพียงแต่ใช้เรียกสำหรับสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ซึ่งในกรณีนี้ก็คือสัมปทาน 4G นั่นเอง 


คิดเล่นๆ ว่า หาก DTAC ชนะประมูลในครั้งนี้ และต้องจ่ายค่าสัมปทาน 76,000 ล้านเท่ากับว่าค่าตัดจำหน่ายจะตกปีละประมาณ 4,200 ล้านบาท (ระยะเวลาตัดจำหน่ายคือ 18 ปี) ในขณะที่กำไรสุทธิของ DTAC ย้อนหลังอยู่ที่ราวๆ 10,000 ล้านบาทเท่านั้น กำไรหายไปเกือบครึ่ง ! 


จึงไม่แปลกที่ราคาหุ้น DTAC จะไหลลงมาจาก 80 บาท จนตอนนี้อยู่ที่ 38 บาท ต่ำกว่าราคา IPO เมื่อ 8 ปีที่แล้วซะอีก


แล้วปัจจัยบวกล่ะ? มีมุมมองนึงที่น่าสนใจมากซึ่งผมอ่านเจอในพันทิปครับ บางคนก็เชื่อว่าประมูลไม่ได้แล้วไง ? คลื่นก็ยังมีให้ใช้อีก 3 ปี ค่อยมาประมูลใหม่ก็ยังไม่สาย ดีไม่ดีในอนาคต การประมูลอาจไม่บ้าดีเดือดขนาดนี้ก็เป็นได้ เพราะค่ายอื่นๆ ได้แก่ AIS TRUE และ JAS ต่างก็มีสัญญาณของตัวเองเหลือเฟือแล้ว เผลอๆ อาจได้สัมปทานในราคาที่ถูกกว่านี้เยอะเลย


ด้วยเหตุผลนี้เอง อาจทำให้ราคาหุ้น DTAC ไม่ลงชนิดร้องไห้หนักมากเหมือนที่ผ่านมา หรือในกรณีที่ดีกว่านั้นคือ ราคาหุ้นอาจขึ้นด้วยซ้ำ



Click image for larger version

Name: 165.jpg
Views: 1
Size: 11.3 กิโลไบต์
ID: 218864

ปัจจัยลบจะคล้ายๆ กับ DTAC ก็คือเรื่องของงบการเงิน งวด 3 ไตรมาสล่าสุดของ TRUE นั้นมีกำไรอยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาทเท่านั้นเอง หากต้องโดนหักด้วยค่าตัดจำหน่ายจากคลื่นล่าสุดอีก 4,200 ล้าน กำไรก็ไม่เหลือ นี่ยังไม่รวมค่าตัดจำหน่ายจากคลื่นแรกที่ประมูลมาได้นะครับ นี่เองคือสิ่งที่อาจทำให้ราคาหุ้นลงได้ในวันจันทร์


แต่ในด้านของปัจจัยบวก 1) ทุนเค้าหนา ถึงจะต้องมีรายจ่ายค่าสัมปทานกว่าแสนล้าน เค้าก็ยังมีซัพพอร์ตจากพ่อใหญ่อย่าง CPF หรือจากบริษัทที่เข้ามาร่วมทุนก็ได้ 


2) การที่ TRUE ชนะประมูลถึงสองคลื่น มันคือใบเบิกทางเพื่อก้าวไปสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือกำไรที่ใหญ่ยิ่งในอนาคต(แต่ทำได้ไม่ได้อันนี้ไม่รู้ :P) ด้วยเหตุผลสองข้อง่ายๆ ราคาหุ้น TRUE ก็มีสิทธิบวกได้เช่นกัน





ม้ามืดที่ไม่พูดก็คงไม่ได้ เอาปัจจัยบวกก่อน เหตุผลหลักๆ ที่จะทำให้ราคาหุ้น JAS ขึ้นในวันจันทร์ได้ ก็คงหนีไม่พ้นการที่บริษัทจะก้าวเข้ามาเป็นผู้เล่นอีกรายในอุตสาหกรรมเครือข่ายมือถือแห่งนี้นี่เอง


แต่ปัจจัยลบก็หนีไม่พ้นเรื่องเดิม นั่นคือค่าสัมปทานที่สูงติดอันดับโลก แถมตอนนี้ JAS เองยังไม่มีอะไรเลยเกี่ยวกับสัญญาณมือถือ ไม่มีเสา ไม่มีลูกค้า มีแต่สัมปทานราคาแพงที่ได้มาล่าสุด 


ก็ต้องดูต่อไปว่าอนาคต JAS จะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ แต่หลายๆ คนเชื่อว่าคงหนีไม่พ้นเรื่องของการเพิ่มทุนเป็นแน่ แต่จะเพิ่มทุนกับผู้ถือหุ้นอย่างเราๆ หรือเพิ่มทุนกับกลุ่มธุรกิจอื่น อันนี้ก็ไม่อาจมีใครทราบได้


จบในส่วนของข่าวดีและข่าวร้ายไปเรียบร้อย แล้วกราฟของหุ้นแต่ละตัวล่ะ ?

ปล. กราฟที่ใช้ของหุ้นแต่ละตัวคือภาพ Week


Click image for larger version

Name: 010.png
Views: 1
Size: 167.0 กิโลไบต์
ID: 218865

ADVANC



Click image for larger version

Name: 011.png
Views: 1
Size: 155.7 กิโลไบต์
ID: 218866

DTAC



Click image for larger version

Name: 012.png
Views: 1
Size: 160.7 กิโลไบต์
ID: 218867

TRUE



Click image for larger version

Name: 013.png
Views: 1
Size: 162.8 กิโลไบต์
ID: 218868

JAS



พูดอย่างไม่อ้อมค้อมก็คือหุ้นทุกตัวนั้นอยู่ใน "ขาลง" ทั้งหมด นี่เองคือ Point สำคัญ ต่อให้วันจันทร์ หุ้นสื่อสารตัวไหนก็ตามที่ราคาสามารถขึ้นได้ ก็ไม่ได้แปลว่านั่นเป็นจุดต่ำสุดของราคาหุ้นครับ เพราะกราฟในภาพ Week นั้นยังเป็นตัว "กด" ให้ราคาหุ้นลงต่อได้อย่างไม่ยากเย็น 


แต่ก็อย่างว่า สำหรับหุ้นนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ หากปัจจัยบวกที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนั้นมันมีน้ำหนักมากพอให้ทุกคนเชื่อได้อย่างต่อเนื่อง ราคาหุ้นก็มีสิทธิพลิกฟื้นเป็นขาขึ้นได้เช่นกัน อยู่ที่ว่ามันจะเกิดขึ้นได้รึเปล่า ในช่วงเวลาที่ตลาดโดยรวมยังโดนเทขายอย่างหนัก


ที่แน่ๆ ก็คือ ความได้เปรียบในอุตสาหกรรมเครือข่ายมือถือ ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแล้วครับ จากเดิมที่มีผู้เล่นเพียงสามราย ได้มี JAS เข้ามาอีกหนึ่ง การทำกำไรของค่ายมือถืออาจไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไปแล้ว


วันจันทร์นี้ หุ้นตัวไหนจะขึ้นจะลง ยังไม่ยากเท่าการวิเคราะห์ว่าหุ้นตัวไหนจะรุ่งหรือจะร่วงหลังจากวันจันทร์นี้เลย 


1 ความคิดเห็น: