ว่ากันว่าข้าวจานคนอื่นมักจะน่ากินกว่าเสมอ เรื่องของการลงทุนก็หนีไม่พ้นเช่นกันครับ นักลงทุนที่ใช้ปัจจัยพื้นฐานก็อาจมองว่าเทคนิคมันง่ายเพียงแค่ดูกราฟแล้วเทรด แต่นักลงทุนสายวิทยาลัยเทคนิคอาจคิดว่าพื้นฐานนั้นเพียงแต่ถือยาวก็กำไรได้แล้ว
ถ้าอย่างนั้นสำหรับมือใหม่ (หรือมือเก่า) ที่ต้องการศึกษาเรื่องการลงทุนอย่างจริงจัง ควรจะศึกษาสายไหนที่เข้าใจได้ง่ายมากที่สุดดีล่ะ
เฉลยเลยครับ มันก็ยากทั้งคู่นั่นแหละ มันฟังดูโหดร้ายที่การลงทุนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เราต้องไม่ลืมว่าโลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้มาโดยไร้ซึ่งความพยายามทั้งนั้น
อย่างเช่นคนที่ประสบความสำเร็จในสายพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นบัฟเฟตต์ก็ดี ดร.นิเวศน์ก็ดี คุณโจ ลูกอีสานก็ดี พวกเขาเหล่านี้ล้วนเคยผ่านช่วงเวลาที่ยากเย็นแสนเข็ญกันทั้งนั้น บัฟเฟตต์ก็ไม่ได้อ่านงบการเงินเป็นหรือดูธุรกิจเป็นตั้งแต่เกิด เค้าก็ต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างหนักเหมือนกัน
ในด้านสายเทคนิค แม้กราฟอาจดูเหมือนอะไรบางอย่างที่มองแล้วซื้อตามได้แบบง่ายๆ แต่ความจริงมันยากกว่านั้นครับ การดูกราฟก็ต้องอาศัยชั่วโมงบินอย่างหนักไม่ต่างกับสายพื้นฐาน ฝึกดูกราฟย้อนหลัง พัฒนาระบบเทรด กว่าที่คนๆ นึงจะกลายเป็นเซียนสายเทคนิคได้ล้วนแต่ต้องมีแผลเต็มหลังทั้งนั้น
แม้การฝึกฝนจะต่างกันในแง่ของวิธีการ แต่สิ่งนึงที่ต้องฝึกเหมือนกันเลย มันคือเรื่องของนามธรรม อย่างเช่น ใจ วินัย ความอดทน ทัศนคติ อารมณ์ความรู้สึก มันจับต้องไม่ได้ก็จริงครับ แต่เราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าสิ่งเหล่านี้แหละที่ทำให้นักลงทุนแต่ละคนประสบความสำเร็จไม่เท่ากัน
ทั้งสองศาสตร์ มันยากทั้งคู่ และสำหรับคนที่เริ่มศึกษา ทำใจได้เลยว่ามันไม่มีอะไรที่ง่าย แต่เพราะความยากของมันนี้เองครับ จะเป็นสิ่งที่คัดระหว่างคนทั่วไปกับคนที่พยายามอย่างจริงจังได้
แล้ววันนี้เราพยายามมากพอแล้วหรือยัง ?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น