เราเห็นอะไรจากรูปภาพนี้บ้าง ?
บริเวณที่ผมวงไว้คือจุดที่ทุกท่านทราบดี ว่าคือช่วงครึ่งปีหลังของปี 58 ครับ SET ในภาพ Month ได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเรื่องจนต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 ที่สำคัญคือเส้น EMA ทั้งสองดันตัดลงอีกต่างหาก ตัดลงในภาพ Month ซะด้วยนะ
ต่อให้ไปถามคนที่เพิ่งเรียนเรื่องหุ้น เค้าก็ต้องรู้ว่าตรงนั้นเป็นขาลง ถูกต้องมั้ยครับ ? และการที่ตลาดเป็นขาลง ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะลากหุ้นตัวอื่นให้ตลาดให้ลงตามไปด้วย
นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อบทความนี้ การเทรดฝืนตลาด มันคือหนทางสู่การเจ๊งหุ้นโดยสมบูรณ์ !!
แม้กระทั่งผมเอง จริงอยู่ที่ช่วงครึ่งปีแรกผมยังสามารถทำกำไรได้ (หากติดตามเพจผมมา จะจำได้ว่าครึ่งปีแรกผมยังบวกอยู่พอสมควร) แต่ทันทีที่ผ่านเข้าสู่ครึ่งปีหลัง ด้วยความไร้เดียงสาที่ไม่ได้ตรวจดูสภาวะตลาดโดยรวม คิดเองเออเองว่าหุ้นดีมันก็ขึ้นได้ด้วยตัวมันเอง สุดท้ายกำไรที่เคยได้ก็ต้องลดลงไปอย่างน่าจะหาย
ซึ่งหุุ้นที่ผมเคยซื้อมาตลอดตั้งแต่ครึ่งปีหลัง ด้วยการใช้กราฟ Week + การดูพื้นฐานกิจการด้วย ได้แก่หุ้น VTE, KAMART, HFT และอื่นๆ จุดที่เหมือนกันก็คือบริษัททั้งหมดที่ว่านี้มีกำไรในไตรมาสล่าสุด เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) เพิ่มสูงขึ้นกว่าเท่าตัว กราฟ Week ก็ทำทรงสวย แต่เพราะพี่ใหญ่ SET ยังขยันลงต่อ หุ้นที่ผมเคยถือจึงพลอยลงตามไปด้วย
แต่หลายท่านก็อาจแย้งว่ายังมีหุ้นบางตัวที่ขึ้นเป็นกิจลักษณะได้อยู่นะ อย่าง TASCO และ TAPAC ก็ขึ้นได้เป็นล่ำเป็นสันเลยไม่ใช่เหรอ ?
ใช่ครับ หุ้นทั้งสองตัวนั้นเป็นพระเอกท่ามกลางเหล่าผู้ร้ายในตลาดหุ้น แต่ทุกท่าน ลองพิจารณากราฟหุ้นสองตัวนี้ก่อน ด้วยกราฟ Week
ตัวแรก หุ้นยางขวัญใจมหาชน TASCO
ส่วนตัวที่สอง ม้ามืดอย่าง TAPAC ที่ไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะวิ่งไปจนทะลุ 20 บาท
สิ่งที่หุ้นทั้งสองตัวนี้มีเหมือนกันก็คือ สัญญาณซื้อ (บริเวณที่ผมวงไว้) มันเกิดขึ้นก่อนช่วงตลาดเป็นขาลงครับ อย่าง TASCO เองเกิดสัญญาณประมาณเดือนมกราคมปี 2558 ส่วน TAPAC มีสัญญาณซื้อมาตั้งแต่สิงหาคมปี 2557 ที่ราคาประมาณ 2 บาทเท่านั้นเอง และไม่ต้องสงสัย ช่วงเวลานั้นงบการเงินของทั้งสองบริษัทมีกำไรสุทธิที่พุ่งพรวดขึ้นอย่างาก
มันจึงเป็นเหมือนแรงส่งครับ กราฟ + พื้นฐานที่แข็งแกร่งมาตั้งแต่แรก สามารถทำให้หุ้นวิ่งจนผ่านช่วงวิกฤติมาได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่หุ้นส่วนใหญ่ที่อาจมีสัญญาณซื้อในช่วงครึ่งหลังปี 2558 กลับขึ้นได้ไม่เท่าไหร่ หรือร้ายกว่านั้นคือลงไปกว่า 50% เลยก็มี
ด้วยเหตุนี้เอง การฝืนตลาดจึงอาจเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำเท่าไหร่นัก แม้กระทั่งในตอนนี้ หลายๆ ท่านอาจเชื่อว่าตลาดหุ้นกำลังผ่านจุดต่ำสุดไป (ผมเองก็หวังให้เป็นอย่างนั้นนะ) และการเข้าซื้อในตอนนี้อาจได้ราคาที่ต่ำที่สุด แต่อย่าลืมนะครับ ไม่มีใครที่ซื้อได้ราคาต่ำสุด และขายได้ที่จุดสูงสุด นอกจากคนที่กำลังฝันอยู่เท่านั้น ถูกแล้วก็มีถูกอีกได้ ไม่มีใครคาดเดาตลาดได้ราวกับจับวาง
ทุกอย่างมันมักจะถูกเฉลยเมื่อเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นแล้วเท่านั้น บางทีหนทางในการเทรดและการลงทุนที่ดีที่สุด อาจเป็นการอยู่กับปัจจุบัน และเตรียมพร้อมรับกับทุกสถานการณ์เสมอครับ :)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น