ปกติแล้วในแวดวงนักเทคนิคอล (หรือแม้แต่วีไอบางส่วนก็ตาม) จะมีกฎที่สำคัญมากๆ อยู่ข้อหนึ่งนั่นก็คือ "อย่าซื้อหุ้นที่กำลังลง" เหตุผลก็แทบไม่ต้องคิดอะไรมากเลยครับ เพราะเมื่อทิศทางบอกว่ามันเป็นขาลง มันก็แทบไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเอาเงินเราเข้าไปเสี่ยง
ซึ่งหากมองโดยภาพรวมแล้วมันก็มีประโยชน์ ถึงแม้มันจะทำได้ยากหน่อยก็จริง (ใครกันจะอดใจไหวถ้าสินค้าราคาถูกลง) แต่มันก็เป็นหนึ่งในวิธีการที่ปกป้องเงินต้นได้อย่างดีเยี่ยม และช่วยป้องกันความเสี่ยงไม่ให้เงินเราจมอยู่กับหุ้นตัวนั้นอีกด้วย
แต่ถ้างั้นทำไมผมถึงตั้งชื่อบทความบ้าบ้อซะขนาดนั้นล่ะ ?
เหตุเกิดมาจากการที่ผม Back Test (อีกแล้ว) ครับ ด้วยความที่ผมเองใช้กราฟ Week ในการเทรด จึงจำเป็นต้องดูภาพใหญ่อย่างกราฟ Month ประกอบด้วย ว่ามันจะมีสัญญาณมากพอที่จะให้เข้าซื้อได้รึเปล่า ซึ่งหุ้นหลายๆ ตัวผ่านเกณฑ์อย่างสวยงาม ไม่มีอะไรผิดปกติ
แต่มันจะมีหุ้น "บางส่วน" ที่ไม่เข้าข่ายนี้ ผมยกตัวอย่างง่ายๆ สมมติหุ้นตัวนึงมีจุดเข้าซื้อที่สวยงามมาก ณ ราคา 3.50 บาท และเมื่อไปดูภาพ Month ก็เห็นได้ชัดว่าอินดิเคเตอร์มันร่ำร้องให้เราซื้อ งั้นก็ซื้อซะเลยสิ ! แต่ถ้าลองสังเกตกราฟเดือนดีๆ จะเห็นว่ามันขึ้นมาตั้งแต่ 0.70 บาทแบบไม่หยุดพักเลย (เช่น ขึ้นมาโดยไม่หลุดแม้แต่เส้นค่าเฉลี่ย 5 เดือน)
นั่นเท่ากับว่าจุดที่เราซื้อมันคือ "ดอย" ที่สูงโคตรๆ และคำถามคือเราคิดว่ามันจะไปต่อได้รึเปล่า เพราะมันขึ้นมาแรงซะขนาดนั้น ?
นี่ล่ะครับคือความหมายที่ผมพูดถึงว่าการซื้อหุ้นที่กำลังขึ้นก็ไม่ได้ดีเสมอไป แต่ผมไม่ได้บอกว่าจะให้เราไปซื้อหุ้นที่กำลังลงอยู่นะ เรายังสามารถซื้อหุ้นที่กำลังขึ้นอยู่ได้ แต่อย่างน้อยๆ ใน Time Frame ที่เราเทรด (รวมถึง TF ที่ใหญ่กว่า) ก็ไม่ควรจะขึ้นมาสูงมากนัก เพราะมันมีสิทธิที่จะตกลงมาได้
อะไรที่มากไปมันก็ไม่ดี อะไรที่น้อยไปมันก็ไม่ดี ความพอดีต่างหากครับที่ผมคิดว่ามันทำให้เราอยู่รอด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น